วิธีแก้ปัญหา ลูกติดเกม (by อ.โอม)

ท่านผู้ปกครองหลายๆ ท่านที่กำลังประสบปัญหา เจ้าตัวน้อยของท่านดังนี้

- ติดใจอะไรไม่รู้ แต่ไม่ยอมห่างจากหน้าจอคอมเลย
- มีเวลาว่าง เผลอเป็นไม่ได้ ต้องแว่ปไปหน้าจอคอมทุกที
- งานบ้านไม่ยอมช่วย การบ้านไม่ยอมทำ หนังสือไม่ยอมอ่าน เล่นแต่เกม!!




ปัญหาเหล่านี้ ยังไม่สายเกินไป และควรเริ่มต้นแก้ไขเสียแต่วันนี้

ทีนี้ก็ต้องมาวิเคราะห์กันก่อนว่า ลูกน้อยของท่าน เริ่ม "ติด" ในขั้นไหน

ขั้นแรก
พฤติกรรมเบื้องต้น : จะเล่นเกมด้วยความมันส์ สนุกสนาน
ส่งเสียงตื่นเต้นตลอดเวลาที่เล่น  เอาเรื่องในเกมมาเล่าว่า สนุกอย่างไร ตื่นเต้นอย่างไร
มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ก็จ้องที่จะขออนุญาต(หรือบางครั้งก็ไม่ขอ)ไปเล่นเกมอยู่เรื่อยไป

วิเคราะห์ : อาการระดับนี้ ยังถือว่าเบาครับ แค่เล่นเกมแล้วรู้สึกว่า สนุก ชอบ
มากกว่ากิจกรรมอื่นๆ  ยังรู้สึกติดใจความสนุกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นความสนุกที่เด็กจะชอบจากกิจกรรมอื่นๆ ทั่วไปเช่นกัน

วิธีแก้ : พยายามอย่าให้เค้ามีเวลาว่าง จำกัดเวลาและวางกรอบเวลาให้เค้าอย่างชัดเจน
เช่น ใน 1 วันมี 24 ชม. นอน=8, เรียน=8, ทำกิจกรรมอื่น=4, ช่วยงานบ้าน=2
เค้าจะเหลือเวลาส่วนตัวเพียงแค่ 2 ชม.  ซึ่งอาจจะให้อ่านหนังสืออีก 1
เหลืออีกเพียง 1 ชม.ให้เค้าเลือกใช้เป็นเวลาส่วนตัว ซึ่งเป็นสิทธิ์ของเค้า
ถ้าเค้าได้ใช้เวลาเต็มวันไปกับสิ่งที่ต้องทำมากมาย
เค้าจะรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะมีอารมณ์สนุกไปกับเกม
และในบางวันเมื่อเค้าได้เข้าไปเล่นเกม มันจะไม่ใช่เกมที่รู้สึกสนุกผ่อนคลายอีกต่อไป
แล้วเค้าจะค่อยๆ ลด ละ เลิกไปเอง

ในระดับนี้ อาจใช้เวลาปรับตัวบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่นานนัก
ที่สำคัญคือ เมื่อคุณผู้ปกครองวางตารางเวลาให้ลูกน้อยแล้ว
ต้องใจแข็งพอที่จะควบคุมและจับตามองอย่างเข้มงวด ไม่ให้ผิดเวลาจากตาราง
อาจจะให้เวลาพิเศษเป็นรางวัลบ้าง ในวันที่เค้าเรียนหรือทำสิ่งใดได้ดีเป็นพิเศษ
และสมควรจะได้รับรางวัล แต่อย่าเยอะนัก
หากผ่านตรงช่วงนี้ไปได้ เด็กจะเห็นความสำคัญของเวลา
และจะใช้เวลาไปทำสิ่งอื่นที่เค้าเห็นว่าสำคัญกว่า



ขั้นสอง
พฤติกรรมเบื้องต้น : อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เกือบตลอดเวลาที่มีโอกาส
เด็กจะไม่ค่อยเล่าว่า ทำอะไรหรือไปพบเจออะไรในคอมพิวเตอร์
แต่ว่างเมื่อไหร่ จะไปนั่งอยู่หน้าจอทันที
เมื่อเดินไปสังเกตดู จะพบว่า เค้าเล่นเกมอยู่เกือบตลอด หรือบางครั้งอาจเล่น Facebook
มีโทรศัพท์แปลกๆ ที่คุณไม่รู้จักว่าใคร ชอบโทรมาคุยเสมอ
ไม่ค่อยยอมมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ ร่วมกับคนในครอบครัว
บางครั้งอาจมีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย โดยไม่มีสาเหตุ

วิเคราะห์ : ในระดับนี้ เป็นอาการที่เด็กเริ่มมีสังคมบนโลกออนไลน์
มิเพียงสนุกสนานไปกับเกมหรือสิ่งที่เค้าใช้ออนไลน์แล้ว
เค้ายังมีสังคมของเค้า ซึ่งการแก้ไขในระดับนี้ ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร
และต้องใช้ความเข้าใจ ความเอาใจใส่ค่อนข้างมากในการเปลี่ยนพฤติกรรม
เปรียบเสมือน ผู้ใหญ่บางคนที่ชอบไปพบปะ เจอเพื่อนที่โต๊ะสนุ๊กเกอร์, ร้านกาแฟปากซอย, ผับ
ซึ่งการที่จะไปบอกให้เลิก หรือหยุดทันที ค่อนข้างยาก และอาจเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรง
เพราะเริ่มเป็นสังคมหลักอีกช่องทางนึงของลูกน้อยไปแล้ว



วิธีแก้ : เมื่อเริ่มวิเคราะห์ ทำความเข้าใจอย่างแน่ใจแล้วว่า
ลูกน้อยของคุณติดสังคมออนไลน์
ไม่ว่าจากการเล่นเกม หรือสังคมออนไลน์บน Social Network
คุณต้องเริ่มหาสังคมอื่นที่คุณเห็นว่าดีกว่า เหมาะสมกว่า ให้ลูกน้อยของคุณ
เช่น พาไปเจอกลุ่มเพื่อนที่เล่นกีฬา หรือพาไปเจอกลุ่มเพื่อนที่ทำกิจกรรมด้านอื่นๆ

จากนั้นก็พยายามตีกรอบเวลาในการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้น้อยลง
ช่วงแรกๆ เด็กอาจมีอาการต่อต้านบ้าง
และอาจแอบหันไปใช้คอมพิวเตอร์ตามร้านอินเตอร์เน็ต
ซึ่งคุณผู้ปกครองก็ต้องจับตามองให้แน่ใจว่า
ลูกน้อยเริ่มมีความสุขหรือสนิทกับใครในกลุ่มเพื่อน สังคมใหม่บ้างมั๊ย?
หากยังไม่มี ต้องอาจหาสังคมใหม่ หรือกิจกรรมใหม่

บางครั้งอาจต้องมีสิ่งของหรือรางวัลล่อใจ ลองถามเค้าดูว่า
เค้าอยากได้สิ่งใด ณ ตอนนั้น หากมันไม่ใช่ของที่ฟุ่มเฟือยมากนัก
ลองเอามันมาแลกเปลี่ยนกับการเข้าสังคมใหม่
เป็นการตกลงที่คุ้มค่านะครับ

การแก้ไขในระดับนี้ อาจมีการต่อต้านตั้งแต่เล็กน้อยถึงขั้นรุนแรง
ซึ่งต้องใช้เวลา อย่างค่อยเป็นค่อยไป เข้มงวด แต่ต้องผ่อนหนักเบาบ้าง
แต่หากเราเข้าใจในพฤติกรรมและเอาใจใส่ในปัญหาที่แท้จริง ก็จะแก้ไขได้ไม่ยาก
ในบางกรณี ถึงขั้น ลูกไม่ยอมเล่าให้เราฟัง ในเรื่องสังคมของเค้า
เราอาจต้องใช้เวลาไปนั่งฟัง นั่งดู ให้ความสนใจ
จึงจะพูดภาษาเดียวกับเค้ารู้เรื่อง เค้าจึงจะยอมคุยกับเรา

เมื่อเค้าเริ่มรู้สึกมีความสุขกับสังคม หรือกิจกรรมใหม่
ที่ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์
เค้าจะเริ่มเข้าใจ และรู้จักใช้เวลา
อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นต้องใช้ทำงานเท่านั้น